ในปัจจุบันนั้น แฟชั่นการสวมใส่เสื้อผ้าของแต่ท่านนั้น มีมากมายหลายรูปแบบให้ได้เลือกสวมใส่กัน มีแนวทางต่างๆ มากมาย ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมเสื้อผ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดดมาโดยต่อเนื่องครับ วันนี้เราเลยอยากจะมาพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ทำความเข้าใจกับ อุตสาหกรรมเสื้อผ้า” ที่น่าสนใจกันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ
นิยามของเสื้อผ้า
เสื้อผ้า หรือ เครื่องแต่งกาย หรือ เครื่องนุ่งห่ม เป็นสิ่งที่มนุษย์สวมใส่เพื่อปกป้องร่างกายจากสภาวะอากาศ สภาพแวดล้อม ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย ความสุภาพ และเพื่อสะท้อนถึง สังคม ศาสนา วัฒนธรรม รวมถึง รสนิยมเฉพาะตัวบุคคลด้วย เสื้อผ้าบางชนิดยังสามารถสวมใส่ได้ทั้งชายและหญิง ซึ่งในโลกปัจจุบันเปิดกว้างเป็นอย่างมากเลยหล่ะครับ
อุตสาหกรรมธุรกิจเสื้อผ้าประกอบไปด้วยด้านใดบ้าง?
ธุรกิจออกเป็นหลากหลายรูปแบบดังนี้
1. รับจ้างผลิตเสื้อผ้า การรับจ้างผลิตเสื้อผ้า เป็นธุรกิจเสื้อผ้า แบบที่ Classic ที่สุดของประเทศไทย เพราะมันเคยเป็นธุรกิจที่เจริญรุ่งเรืองมาก สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล แต่ปัจจุบันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะค่าแรงเราสู้เพื่อนบ้านไม่ได้ และธุรกิจนี้มักจะมีการตัดราคากัน เพราะว่าธุรกิจนี้ เพียงแค่มีเงินทุน ก็เข้ามาเริ่มธุรกิจได้ แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่ นั่นอีกเรื่องหนึ่ง
2. เปิดร้านขายเสื้อผ้า ช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา การเปิดร้านขายเสื้อผ้า ก็เป็นธุรกิจที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ในหมู่นิสิต นักศึกษา รวมทั้งพวกวัยทำงาน พนักงาน Office เพราะเริ่มต้นได้ง่าย ใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก ไม่ต้องใช้การดูแลที่มากนัก แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบ ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ไม่ค่อยมีร้านไหนที่อยู่นาน
3. สร้าง Brand เสื้อผ้าของตัวเอง มี Brand ย่อมดีกว่าไม่มี Brand มียี่ห้อของตัวเอง ย่อมดีกว่าไปใช้ยี่ห้อคนอื่น หลายคนคิดแบบนั้น เลยเลือกที่จะสร้าง Brand เสื้อผ้าขึ้นมาเอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่อยู่ในระดับ Premium หรือเสื้อผ้าทั่วไป เช่น เสื้อตราห่านคู่ เป็นต้น ธุรกิจแบบนี้จะยืนระยะได้นานกว่า และอยู่รอด ทำกำไรได้ในระยะยาว
4. ขายเสื้อผ้า online ธุรกิจเสื้อผ้าแบบนี้ เป็นรูปแบบที่นิยมที่สุด ใครๆ ก็หันมาจับธุรกิจนี้ ด้วยการนำเข้าเสื้อผ้ามาจากประเทศจีน หรือเกาหลี แล้วก็นำมาใส่ไว้ใน Website ของตน หรือสร้าง Fan page ขึ้นมาใน Facebook ก็เป็นอีกวิธีที่ดี เพียงแต่วิธีนี้ คุณอาจจะต้องง่วนกับการส่งสินค้าซักหน่อย
ประเภทของเสื้อผ้าแบบต่างๆ
●ประเภทผ้าทอ (weaving fabric) กรรมวิธีการนำเส้นด้ายมาขัดกัน มีเส้นใยด้าย คือ เส้นด้ายยืน (Warp yarn) และเส้นด้ายพุ่ง (Weft yarn)
●ประเภทผ้าถัก (Knitted fabric) การนำเส้นด้ายต่อกันเป็นห่วง (Interlock loops) มีเส้นใยด้าย คือ เส้นด้ายแนวตั้ง (Wales) และเส้นด้ายแนวนอน (Course)
●ประเภทผ้าไม่ถักไม่ทอ หรือผ้า นอนวูฟเวน (Non-woven fabric) มีลักษณะโครงสร้างเป็นแผ่นผ้าที่เกิดจากการสานไปมาของเส้นใย (fibrous web) มีการยึดกันด้วยการ ที่เส้นใยพันกันไปมา (mechanical entanglement) หรือโดยการ ใช้ความร้อน เรซิน หรือสารเคมีในการทำให้ เกิดการยึดกันระหว่างเส้นใย
อุตสาหกรรมผลิตผ้าส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง?
อุตสาหกรรมเสื้อผ้ามีสัดส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ราว 8-10% ของอัตราการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก และปล่อยน้ำเสียเกือบ 20% ของปริมาณน้ำเสียทั่วโลก พร้อมสารเคมีมากมาย โดยรวมแล้วอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้าใช้พลังงานมากกว่าอุตสาหกรรมการบินและการขนส่งทางเรือรวมกัน อีกทั้งน้ำเสียจากกระบวนการผลิตใช้มากถึงประมาณ 2000 – 3000 ลิตรเลยหล่ะครับ ซึ่งเหตุผลที่ใช้น้ำเยอะนั้นเป็นเพราะการนับตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกฝ้ายและการฟอกยอมสีที่แต่ละกระบวนการนั้น ใช้น้ำเป็นจำนวนมากครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “อุตสาหกรรมเสื้อผ้า” ที่เป็นข้อมูลคร่าวๆ ที่ได้นำมาฝากท่านผู้อ่านกัน คิดว่าอาจจะได้ความรู้ติดตัวกันไปบ้างนะครับ